ท่อ  RTRC ได้ออกแบบมาเพื่อให้สะดวกและง่ายในการติดตั้ง โดยข้างหนึ่งจะบานเป็นรูปปากระฆัง (Bell End) อีกด้านหนึ่งจะตรง (Spigot) ในการติดตั้ง ให้นาปลายด้านตรงสวมเข้ากับท่อด้านบาน โดยที่ปลายท่อด้านบานจะมี Gasket และ Retainer Ring ช่วยยึดให้ท่อที่ประกอบเข้ากันแน่นมากและยังกันน้ำได้ดี

ท่อ RTRC สามารถรับแรงกดได้ถึง 3400 lbs/ft (2 นิ้ว) และ 3100 lbs/ft (5 นิ้ว) ; สามารถรับแรงอัดได้ประมาณ 140 ft-lbs (5 นิ้ว) และยังสามารถคืนรูปเป็นทรงกลมได้อย่างเดิมหลังจากที่ดีรับแรงกดแรงอัด

เท่ากับ 0.385 เนื่องจากผิวภายในท่อเรียบมาก ทำให้ง่ายต่อการดึงสายเคเบิ้ลยาวๆ และสามารถแก้ปัญหาเคเบิ้ลฉีกขาดระหว่างลากสาย เมื่อเทียบกับท่อชนิดอื่น

โดยสามารถใช้งานในช่วงอุณหภูมิระหว่าง -40 ๐C ถึง 110 ๐ C (-40 ๐ F ถึง 230 ๐ F) โดยไม่มีการแตกหรือทรุด

โดยสามารถติดตั้งได้ทุกสภาพแวดล้อม มีอายุการใช้งานมากกว่าท่อชนิดอื่น 

เนื่องจากผลิตจากวัสดุที่ไม่ติดไฟและไม่แผ่สารพิษประเภทฮาโลเจน (Halogen) ออกมาอย่างเช่น ท่อ AC หรือท่อ PVC

เนื่องจากในกระบวนการผลิตมีการผสมคาร์บอนแบล๊ค (Carbon Black) เพื่อป้องกันแสงอุลตร้าไวโอเลต (U.V. resistant system)

เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตท่อ RTRC  คือ ไฟเบอร์กลาส ซึ่งเป็นฉนวนไฟฟ้าและกระจายความร้อนได้ดี ดังนั้นความร้อนที่เกิดขึ้นจากไฟฟ้าลัดวงจรจะไม่สามารถทาให้ท่อ RTRC หลอมติดกับเคเบิ้ล โดยท่อ RTRC มีค่า HDT (Heat Deflection Temperature) ประมาณ 170 ๐ C - 156 ๐ C

ท่อ RTRC มีอุปกรณ์ประกอบครบ เช่น ข้อต่อตรง (Double Bell Coupling), ข้อต่อกับท่อเหล็ก (Male&Female Threaded Adapter), ข้อโค้ง 90๐ (90๐ Bend) และอุปกรณ์ประกอบอื่นๆ ให้พร้อมในการติดตั้ง ท่อ RTRC ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมในหลายรูปแบบ เช่น การติดตั้งฝังดินโดยตรง (Direct Burial), การติดตั้งหุ้มคอนกรีต (Concrete Encasement), การติดตั้งใต้สะพาน (Under bridge), การติดตั้งในรางเคเบิ้ลเหล็ก (Cable Truss) และการติดตั้งในอุโมงค์ (Tunnels)